วันอังคารที่ 30 มิถุนายน พ.ศ. 2552

ประวัติของแมว

ประวัติแมว
















































































































































































แมว
















































แมว เป็นสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมมีชื่อทางวิทยาศาสตร์ ว่า Felis silvestris catus อยู่ในตระกูล Felidae ซึ่งเป็นตระกูลเดียวกับสิงโตและเสือดาว ต้นตระกูลแมวมาจากเสือไซบีเรียน ซึ่งมีช่วงลำตัวตั้งแต่จมูกถึงปลายหางยาวประมาณ 4 เมตร แมวที่เลี้ยงตามบ้าน จะมีรูปร่างขนาดเล็ก ขนาดลำตัวยาว ช่วงขาสั้นแจัอยู่ในกลุ่มของประเภทสัตว์กินเนื้อเป็นอาหาร มีเขี้ยวและเล็บแหลมคมสามารถหดซ่อนเล็บได้เช่นเดียวกับเสือ สืบสายเลือดมาจากแมวป่าที่มีขนาดใหญ่กว่า ซึ่งลักษณะบางอย่างของแมวยังคงพบเห็นได้ใน

































แมวบ้านปัจจุบัน ไม่ว่าจะเป็นแมวพันธุ์แท้หรือแมวพันธุ์ทาง
แมวเข้ามาเกี่ยวข้องกับประวัติศาสตร์อันยาวนาน ซึ่งจากหลักฐานทางประวัติศาสตร์ที่เก่าแก่ที่สุดของแมวคือการทำ
มัมมี่แมวที่ค้นพบในสมัยอียิปต์โบราณ หรือในพิพิธภัณฑ์อังกฤษในกรุงลอนดอน มีการแสดงสมบัติที่นำออกมาจากปิรามิดโบราณแห่งอียิปต์ ซึ่งรวมถึงมัมมี่แมวหลายตัว ซึ่งเมื่อนำเอาผ้าพันมัมมี่ออกก็พบว่า แมวในสมัยโบราณทุกตัวมีลักษณะใกล้เคียงกัน คือเป็นแมวที่มีรูปร่างเล็ก ขนสั้นมีแต้มสีน้ำตาล มีความคล้ายคลึงกับพันธุ์ในปัจจุบัน ที่เรียกว่าแมวอะบิสสิเนียน













































ลักษณะเฉพาะ
แมวเป็น
สัตว์เลือดอุ่นที่มีรูปร่างเพรียว มีหางยาว และบังคับหางได้ มีใบหน้าที่เรียวและโครงหน้าแหลมเช่นเดียวกับเสือและสัตว์อื่น ๆ ในวงศ์เดียวกัน เป็นสัตว์ที่มีเล็บแหลมคม และมีตาที่สามารถมองเห็นในเวลากลางคืนได้ดี แมวจะนอนหลับในเวลากลางวัน และตื่นในเวลากลางคืน

ความสำคัญทางเศรษฐกิจ
แมวเป็น
สัตว์เลี้ยงคลายเหงาที่นิยมมากชนิดหนึ่งใกล้เคียงกับสุนัข แมวบางสายพันธุ์เช่น แมวสีสวาด และแมววิเชียรมาศ เป็นแมวไทยที่สวยงามเป็นที่ชื่นชอบทั้งในประเทศและต่างประเทศ สร้างชื่อเสียงให้กับประเทศไทยในฐานะประเทศที่เป็นต้นกำเนิดของสายพันธุ์ มีการเลี้ยงเพื่อเพาะพันธุ์เพื่อขาย ถือเป็นสัตว์เศรษฐกิจที่สำคัญ นอกจากนี้อุจจาระของแมวสามารถนำมาทำปุ๋ยได้

แมวพันธุ์ต่าง ๆ
แมวในโลกนี้มีมากมายหลายพันธุ์ โดยเฉพาะแมวที่เป็นสัตว์เลี้ยงไม่นับรวมสัตว์ตระกูลแมว พวก
เสือ แมวดาว แมวป่า หรือ สิงโต แมวเลี้ยง หรือที่เราเรียกว่า Domestic cat นั้นมีวิวัฒนการมาจากแมวป่าในธรรมชาติจากหลายภูมิภาคของโลก ชื่อเรียกพันธุ์แมวที่แตกต่างกันที่เรียกกันทุกวันนี้ เช่น เปอร์เซีย แมวสยาม บาลิเนส อะบิสสิเนียน และโซมาลี นั้น แสดงถึงถิ่นกำเนิดที่แสดงถึงภูมิศาสตร์ที่เขาถือกำเนิดมา ในการจัดนิทรรศการที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในประเทศอังกฤษเมื่อปีคริสศักราช 1871 ถือเป็นการเริ่มต้นในการนำเสนอพันธุ์แมวในระดับนานาชาติ ทำให้ผู้สนใจในแมวมีความตื่นตัว แต่การแสดงในครั้งนั้นส่วนใหญ่เป็นแมวเปอร์เซียและแมวขนสั้นเป็นหลัก

การจัดจำแนกแมว
ดูเพิ่มที่
รายชื่อสายพันธุ์แมว
โดยทั่วไปมีการแบ่งพันธุ์แมวออกเป็น 2 ลักษณะใหญ่ๆ คือ แมวขนยาว (longhaired cat) และแมวขนสั้น (shorthaired cats) การแบ่งพันธุ์ด้วยวิธีนี้ทำให้จำแนกแมวออกได้ตามลักษณะพันธุ์ที่จำเพาะต่างๆ กัน การจัดจำแนกแมวในยุโรปและสหรัฐอเมริกามีการกำหนดมาตรฐานของพันธุ์แมวที่เป็นที่ยอมรับกัน ทั้งนี้ลักษณะมาตรฐานของพันธุ์ก็มีการเปลี่ยนแปลงอยู่บ่อยๆ การใช้ชื่อเรียกพันธุ์แมวที่แสดงถึงลักษณะของพันธุ์ที่จำเพาะมีความแตกต่างกันระหว่างในยุโรปและสหรัฐอเมริกา และมีบางพันธุ์มีการจัดจำแนกเฉพาะต่างหากในสหรัฐอเมริกาเท่านั้น แมวมีมากมายหลายพันธุ์

แมวไทย
ดูบทความหลักที่
แมวไทย
คนไทยน้อยคนนักที่จะรู้จักว่าแมวไทยจริงๆนั้นมีลักษณะเป็นอย่างไร ทว่าแมวไทยพันธุ์แท้นั้นกลับไปมีชื่อเสียงโด่งดังที่ต่างประเทศมากกว่าในเมืองไทย ทั้งยังได้รับการยกย่องว่าเป็นพันธุ์อันเลิศพันธุ์หนึ่งในโลก และมีความมหัศจรรย์ยิ่งกว่าพันธุ์ใดๆ เมื่อปี
พ.ศ. 2427 ชาวอังกฤษชื่อนายโอเวน กูลด์ (Owen Gould) กงสุลอังกฤษประจำกรุงเทพฯ ได้นำแมวไทยคู่หนึ่งจากประเทศไทยไปฝากน้องสาวที่อังกฤษ อีกหนึ่งปีต่อมา แมวคู่นี้ถูกส่งเข้าประกวดในงานประกวดแมวที่คริสตัลพาเลซ กรุงลอนดอน ปรากฏว่าชนะเลิศได้รางวัลที่หนึ่ง ทำให้ชาวอังกฤษพากันแตกตื่นเลี้ยงแมวไทยกันจนมีสโมสรแมวไทยเกิดขึ้นเมื่อปี พ.ศ. 2443 ชื่อว่า The Siamese Cat Clubs ต่อมาในปี พ.ศ. 2471 ได้มีการตั้งสมาคมแมวไทยแห่งจักรวรรดิอังกฤษขึ้น หรือ The Siamese Cat Society of the British Empire ขึ้นมาอีกสมาคมหนึ่ง
แมวที่นายโอเวน กูลด์ นำไปจากประเทศไทยนั้น มีแต้มสีครั่งหรือน้ำตาลไหม้เก้าแห่ง คือหน้า หูทั้งสองข้าง เท้าทั้งสี่ หาง และอวัยวะเพศ ซึ่งถือว่าเป็นแต้มสีที่อยู่ในบริเวณที่เหมาะสมและไม่เลอะเทอะเหมือนแมวพันธุ์อื่น และเมื่อนำแมวไทยไปผสมกับแมวพันธุ์อื่น จะได้แต้มสีตามร่างกายในตำแหน่งเดียวกัน แต่รูปร่างจะไม่สง่างามเท่า และอุปนิสัยจะไม่เหมือนกันด้วย ซึ่งแมวไทยพันธุ์นี้เป็นพันธุ์แรกที่ชาวต่างชาติรู้จัก จึงมักเรียกกันทั่วไปว่า Siamese Cat หรือ Seal Point ส่วนในสมุดข่อยโบราณของไทยให้ชื่อแมวไทยลักษณะนี้ว่า "
แมววิเชียรมาศ" คุณสมบัติอันโดดเด่นของแมวไทยอีกประการหนึ่งก็คือ อุปนิสัยที่มีความฉลาด รักบ้าน รักเจ้าของ เป็นตัวของตัวเอง รู้จักประจบ และที่สำคัญคือ การรักอิสระเป็นชีวิตจิตใจ ซึ่งถือว่าเป็นบุคลิกประจำตัว และทำให้แมวไทยเป็นสัตว์เลี้ยงที่ได้รับความนิยมอย่างสูงไปทั่วโลก และเป็นที่น่าสังเกตว่า การผสมพันธุ์ระหว่างแมวไทยและแมวต่างชาตินั้น แม้จะได้แมวที่มีลักษณะและสีเหมือนแมวไทย แต่จะไม่ได้อุปนิสัยตามอย่างแมวไทยไปด้วย นอกจากว่าจะเป็นการผสมระหว่างแมวไทยด้วยกันเองเท่านั้น
ใน
สมุดข่อยโบราณได้กล่าวถึงแมวไทยไว้ถึง 23 ชนิด ซึ่งเป็นแมวดี (แมวให้คุณ) 17 ชนิด และแมวร้าย (แมวให้โทษ) 6 ชนิด ซึ่งในปัจจุบันได้สูญพันธุ์ไปแล้ว 13 ชนิด เหลือเพียง 4 ชนิดเท่านั้นในปัจจุบัน ได้แก่แมววิเชียรมาศ แมวโคราช แมวศุภลักษณ์ และแมวโกญจา ส่วนแมวขาวมณีนั้นแม้จะไม่ได้บันทึกอยู่ในสมุดข่อยก็ตาม แต่ก็ถือเป็นแมวไทย

































แมวพันธุ์ขาวมณี(ขาวปลอด)


















แมวขาวมณี (ขาวปลอด) เป็นแมวไทยพันธุ์แท้ดั้งเดิมที่หลงเหลืออยู่มากที่สุดในปัจจุบัน แม้แมวพันธุ์นี้จะไม่ได้ถูกบันทึกในสมุดข่อยโบราณ แต่สามารถหาหลักฐานได้ตามจิตรกรรมฝาผนังในวัดต่าง ๆ ในเขต ธนบุรี เช่น ในอุโบสถวัดทองนพคุณแมวขาวมณีเป็นแมวที่สวยงามมาก มีขนาดปานกลาง ขนสีขาวแน่นอ่อนนุ่ม พันธุ์แท้ต้องมีสีขาวปลอดทั้งตัว ศีรษะคล้ายรูปหัวใจ หน้าผากใหญ่แบน หูใหญ่ตั้งสูงเด่น หางยาวปลายแหลมชี้ตรง ขายาวเรียวได้ส่วนกับลำตัวดวงตามี 2 สี คือ สีฟ้า หรือ สีเหลืองอำพัน เมื่อเอาแมวขาวปลอด ตาสีฟ้าผสมกับแมวขาวปลอด ตาสีเหลืองอำพัน ลูกผสมที่ออกมาจะมีนัยตา 2 สี คือ ข้างหนึ่งตาสีฟ้า อีกข้างตาสีเหลืองอำพันเรียกกันว่า ODD EYES นิยมเลี้ยงเป็นคู่ เพื่อให้ผลัดกันทำความสะอาดขน ถ้าลี้ยงดูด้วยความรักและเอาใจใส่จะเชื่องมาก เหมาะที่จะเลี้ยงไว้เป็นเพื่อนแก้เหงา

















แมวพันธุ์คอร์นิซเรกซ์

















































เกิดจากการผสมพันธุ์ในหมู่แมวพันธุ์เรกซ์ ทำให้ได้แมวที่มีลักษณะพิเศษขนจะม้วนเป็นคลื่นไม่มีขนเล็กๆเป็นขนชั้นเดียว แมวพันธุ์นี้กำเนิดในอังกฤษที่เมือง corwall นั่นเอง

















ลักษณะสายพันธุ์

















สี : มีอยู่ประมาณ 28 สีและลาย
















รูปร่างและขนาด : เป็นแมวที่มีขนาดเล็ก-กลาง หัวจะยาวและแคบมีหน้าผากที่กลมเล็กน้อย จมูกยาว ใบหูใหญ่ตั้งชี้ขึ้น ดวงตาเป็นรูปไข่สีตาเป็นสีทองแดง ลำตัวจะผอมบาง หางยาว ขายาวและบางเท้ามีขนาดเล็กรูปไข่
















ลักษณะนิสัย : เป็นแมวที่มีเสน่ห์มันจะสนุกกับท่านเสมอ มีอะไรก็เล่นหมด ไม่ซึม ช่างประจบ

























กัลเลอร์พอยท์



























































































แมวพันธุ์นี้ถูกพัฒนามาจากสายพันธุ์ในอังกฤษประมาณปี 1947 โดยเริ่มจากนำแมวไทยพันธุ์วิเชียรมาศผสมกับพันธุ์อังกฤษสีน้ำตาลแดง ซึ่งให้ลูกออกมาเป็นสีแดงอย่างเดียว และนำลูกแมวกลับไปผสมพันธุ์กับแมววิเชียรมาศอีกทีคราวนี้ให้ลูกแมวเป็นลายตามปลายเท้า ใบหู ใบหน้า และนำแมวชุดนี้ไปผสมพันธุ์กันออกมาจะได้แมวที่มีลายที่หัว ใบหู ใบหน้า ขาทั้ง 4 ข้าง เป็นสีต่างๆต่างจากแมววิเชียรมาศจึงถือว่าเป็นแมวสายพันธุ์ใหม่






























ลักษณะสายพันธุ์






























สี : มีสีพื้นบนลำตัวเป็นสีอ่อนจะมีสีเข้มในส่วนใบหู ใบหน้า ขาทั้ง 4 ข้าง หางคล้ายกับความเข้มสีของแมววิเชียรมาศ สีที่นิยมอยู่ คือ สีช็อกโกแล็ค สีน้ำเงิน สีม่วงอ่อน
รูปร่างและขนาด : มีลักษณะคล้ายกับแมวไทยเรา คือ ลำตัวเพรียวไม่อ้วน ขายาวบาง หัวเป็นรูปลิ่ม ตาขนาดกลางรูปอัลมอนด์สีตาเป็นสีน้ำเงิน จมูกค่อนข้างยาว ใบหูตั้งชี้มีขนาดใหญ่ เท้าเล็กรูปไข่















ลักษณะนิสัย : กล้าหาญชาญชัยไม่หวาดกลัวอะไรง่ายๆ ค่อนข้างจะเรียกร้องส่งเสียงหาเจ้าของ รู้มาก คล้ายกับนิสัยแมวไทยเรา






























แมวพันธุ์โคราช(สีสวาด)




























































แมวโคราช (สีสวาด) มีถิ่นเดิมอยู่ที่อำเภอพิมาย จังหวัดนครราชสีมา โบราณเรียกว่า แมวมาเลศ หรือแมวสีดอกเลา เพราะมีสีคล้ายดอกเลาเมื่อปี พ.ศ. 2502 นางยีน จอห์นสัน ได้นำแมวโคราชกลับไปอเมริกา จากนั้นนิยมเลี้ยงกันมากไม่แพ้แมววิเชียรมาศ ขนาดมีการจัดตั้งสมาคมผู้นิยมเลี้ยงแมวไทยพันธุ์โคราชขึ้นในอเมริกาแมวโคราชเป็นแมวขนาดกลาง ขนสีเทาออกเงินมันเป็นประกาย ศีรษะเป็นรูปหัวใจ หน้าผากใหญ่และลาด มีคางและกรามแข็งแรง หูตั้งสูงเด่นแสดงออกซึ่งอาการพร้อมอยู่เสมอ ดวงตาใหญ่เป็นประกาย สีของดวงตามี 2 ชนิด คือ ตาสีเขียว และตาสีเหลือง ขณะยังเล็กมีตาสีฟ้า เมื่อโตขึ้นจะเปลี่ยนเป็นสีเหลืองสดใส และเปลี่ยนเป็นสีเหลืองอำพันหรือสีเขียวอมเหลืองเมื่อโตเต็มที่ในอดีตถือว่าแมวสีสวาดเป็นแมวแห่งโชคลาภ นิยมใช้แมวที่มีตาสีเขียว ในพิธีแห่นางแมวขอฝน เชื่อกันว่าสีขนคล้ายสีของเมฆอันเป็นที่มาของฝน ซึ่งสร้างความอุดมสมบูรณ์แก่พื้นดิน ตาสีเขียวเปรียบเสมือน ความเขียวขจีของกล้าข้าวในนา






























แมวพันธุ์แจแปนนิส บอยเทล













































ถือว่าเป็นแมวประจำชนชาติญี่ปุ่นและเป็นสัตว์นำโชคเพราะมีคนทำเป็นตุ๊กตา ภาพเขียน รูปแกะสลักไว้ติดกับร้านค้าบ้านเรือน ในญี่ปุ่นจะเรียกแมวพันธุ์นี้ว่า มิเก (Mi-Ke) แปลว่า สามสี






























ลักษณะสายพันธุ์






























สี : นิยมเป็นสามสี คือ พื้นลำตัวขาว มีจุดสีบนตัวแต้มเป็นสีดำ-น้ำตาลหรือดำ-ขาว,ดำ-น้ำตาล รูปร่างและขนาด : เป็นแมวที่มีขนาดกลาง-ใหญ่ ลำตัวผอมบาง ขายาว เท้าขนาดกลางรูปไข่ หัวเป็นรูปสามเหลี่ยม มีโหนกแก้มสูง จมูกยาว ดวงตาใหญ่รูปไข่สีตาจะสอดคล้องกับสีที่แต้มขนตัว ใบหูใหญ่ปลายหูกลม แมวพันธุ์นี้หางจะสั้นกุด ลักษณะนิสัย : ใจดีเข้ากับคนง่าย ซื่อสัตย์ มีเสน่ห์ไม่ซึมเศร้า













































แมวพันธุ์ชาร์เทรอ














































แมวพันธุ์นี้เป็นแมวที่ถือว่ามีสายพันธุ์เก่าแก่อีกพันธุ์หนึ่ง มีต้นกำเนิดในศตวรรษที่ 17 โดยนักบวชชาวฝรั่งเศสได้นำแมวพันธุ์นี้มาจากการเดินเรือท่องเที่ยวแถบแหลมกู๊ดโฮป ในทวีปแอฟาริกา และเป็นผู้นำแมวสายพันธุ์นี้กลับมายังฝรั่งเศสด้วย
















ลักษณะสายพันธุ์






























สี : น้ำเงินเทา






























ร่างและขนาด : เป็นแมวขนาดใหญ่ มีรูปร่างป้อมๆ อกใหญ่มีพละกำลังของขามาก ตัวผู้บางตัวมีน้ำหนักถึง 14 ปอนด์เลยทีเดียว หัวจะกว้าง แก้มใหญ่ ใบหูตั้งขอบกลม จมูกสั้น ตามีลักษณะกลมโต สีตาเป็นสีเหลืองอำพัน





























ลักษณะนิสัย : เป็นแมวที่ใจดีชอบเด็กๆอารมณ์เสียยาก สอนง่าย และไม่ดุร้ายเลย




























แมวพันธุ์ซิมริค











































เป็นแมวพันธุ์ขนยาวกำเนิดในอเมริกา ท่าทางการเดินคล้ายหมีคือเวลาเดินจะเซ ไปทางโน้นทีทางนี้ทีเหมือนกับหมีเดิน เสียงร้องเล็กนุ่มหรือเสียงค่อยมาก ขนบริเวณลำตัว จะยาวมากคล้ายแมวเปอร์เซีย










































ลักษณะสายพันธุ์




























สี : มีมากมาย รูปร่างและขนาด : เป็นแมวขนยาว มีขนาดใหญ่ ขนยาวคล้ายแมวเปอร์เซีย ใบหูเล็ก หูตั้ง ลูกในตากลมรี ลักษณะหัวกลมกะโหลกใหญ่




























แมวพันธุ์โซมาลี




















































































เป็นแมวขนยาวที่ผสมพันธุ์ขึ้นในประเทศแคนาดา แต่ทั้งในยุโรปและแคนาดา ก็มีแมวพันธุ์นี้ด้วย มีลำตัวยาวหางอ่อนโค้งงอ ศีรษะลาดกลม กลางศีรษะเป็นสันนูนใหญ่ มีจุดใบแต้มที่ใบหู ลูกนัยน์ตากลมรี ผิวหนังคล้ายตัวกระรอก ขนจะขึ้นหนาทึบ ขนยาว อ่อนนุ่มราวเส้นไหม ขนเป็นปุย บริเวณใบหู ที่หางมีขนแบบขนนก มีขนสีแดงขึ้นรอบ บริเวณใบหูอีกสีหนึ่ง


























แมวพันธุ์เดวอนเรกซ์







































































































กำเนิดจากการนำแมวบ้านพันธุ์พื้นเมืองผสมกับแมวป่าและได้แมวพันธุ์นี้ออกมา เดวอนเป็นชื่อเมืองที่ให้กำเนิด แมวพันธุ์นี้ถือกำเนิดเมื่อประมาณปี 1960 แรกๆคนนึกว่ามันเป็นพันธุ์เดียวกับแมวพันธุ์คอร์นิซ เรกซ์ แต่การพิสูจน์ทางยีนส์พันธุ์กรรมจะพบว่ามันไม่ใช่สายพันธุ์เดียวกันแน่นอน














ลักษณะสายพันธุ์



























สี : มีอยู่ 34 สี ทั้งเฉดและลาย รูปร่างและขนาด : เป็นแมวขนาดเล็ก-กลาง ลำตัวเพรียว เท้าเล็กรูปไข่ ใบหน้าสั้นรูปลิ่มมีโหนกแก้มชัดเจน จมูกจะสั้น ใบหูใหญ่ ตารูปไข่สีตาเป็นสีอำพัน ขนของแมวเดวอน เรกซ์ จะต่างจากแมวคอร์นิซ เรกซ์ ตรงที่ขนยาวกว่าและหยิกเป็นคลื่นน้อยกว่า ลักษณะนิสัย : ขี้เล่น ชอบซุกซน มีอะไรทำทั้งวัน เรียกว่าท่านจะไม่ผิดหวังถ้าท่านชอบแมวขี้เล่นประจบ


























แมวพันธุ์ตันคินเนสส์





































เป็นแมวที่ได้จากการผสมข้ามพันธุ์ระหว่างแมวไทยและแมวที่มีถิ่นกำเนิดใน ประเทศพม่า เป็นทางผสมขึ้นในอเมริกา มีหลายสีเช่นสีช็อคโกแลต สีน้ำตาล สีน้ำเงิน แก้มเทา เป็นต้น เป็นแมวขนาดกลาง หน้าผากรูปสี่เหลี่ยม ปลายหางเรียวเล็ก ลูกนัยน์ ตาสีน้ำเงินแกมเขียว ดวงตารูปเรียวแหลมเป็นประกาย เป็นแมวที่ไม่ชอบทำความสะอาด ตัวเอง ขนของแมวชนิดนี้คล้ายขนของ












แมวพันธุ์บอมเบย์















































































เกิดจากนำแมวพม่าสีน้ำตาลเข้มผสมพันธุ์กับแมวอเมริกันขนสั้นสีดำ ผลก็คือ ได้ลูกแมวสีดำขลับ


































ลักษณะสายพันธุ์























สี : ดำขลับ รูปร่างและขนาด : เป็นแมวขนาดกลางมีกล้ามเนื้อชัดเจน หัวโตหน้าผากกลมกว้าง หูกลมและเอียงไปทางข้างหน้า มีจมูกสั้นสีดำคางเห็นชัดเจน ตากลมโตสีตาเป็นสีทอง ขายาวปานกลางเท้าเล็กรูปไข่ ลักษณะนิสัย : อ่อนโยนไม่ก้าวร้าวสามารถปรับตัวเข้ากับแมวตัวอื่นๆได้ดีและชอบอยู่กับมนุษย์ไม่ปลีกตัวไปไกล










































แมวพันธุ์บาหลี









































ถิ่นกำเนิดอยู่ในอเมริกาเหนือ เป็นแมวขนยาว ลูกนัยน์ตาสีน้ำเงินเข้มสีบริเวณ ศีรษะมีแผ่นรอยแต้มของสีเล็กๆเกิดขึ้น(ขนจะหดสั้น) มีสีทึบ เป็นแมวที่มีความเชื่อมั่น มี ไหวพริบฉลาดสูง บริเวณศีรษะ ลำตัว ช่วงขาและหางเป็นลักษณะของแมวไทย











ลักษณะสายพันธุ์











สี : ขนสีขาวนวล รูปร่างและขนาด : เป็นแมวขนยาว มีสีทึบ หูตั้ง ลูกในตากลมรี ศีรษะมีแผ่นรอยแต้มของสีเล็กๆ นัยน์ตาเป็นสีน้ำเงิน











แมวพันธุ์เปอร์เซีย











































ถิ่นกำเนิดอยู่ในแถบเปอร์เซียหรืออิหร่าน ถูกนำไปเลี้ยงในประเทศต่างๆ ทั้งใน ยุโรปและอเมริกาเป็นเวลาเกือบร้อยปีมาแล้ว สำหรับประเทศไทยจัดเป็นแมวต่างประเทศ พันธุ์แรกที่ถูกนำมาเผยแพร่ เนื่องจากเป็นแมวที่มีอุปนิสัยอ่อนโยน สุขุมเข้ากับคนง่าย มี ความร่าเริงซุกซน ชอบประจบประแจงและมีไหวพริบ





















ลักษณะสายพันธุ์










สี : มีหลายสี เช่น สีชา , สีน้ำตาล , สีเหลือง , สีน้ำเงิน รูปร่างและขนาด : ขนาด ลำตัวใหญ่กว่าแมวไทยเล็กน้อย และขนยาวนุ่มสลวยปกคลุมทั่วร่างกาย ศีรษะกลมและกว้าง ช่วงคอสั้น ใบหูเล็กเท้าอวบใหญ่ หางสั้นเป็นพวงระย้า ที่เด่นมากคือ มีขนที่ลำคอเป็นปุยยาว ฟูและดกมาก


















แมวพันธุ์พม่า



















เกิดจากนักผสมพันธุ์สัตว์ที่ชื่อ ดร.โจเซฟ ทอมสัน เขาได้ผสมพันธุ์แมวพม่าตัวเมียกับแมวไทยพันธุ์วิเชียรมาศตัวผู้ และได้ลูกออกมาเป็นหลายๆเฉดสี หนึ่งในนั้นคือ ลูกแมวสีน้ำตาลดำและมันได้ถูกนำมาคัดเป็นต้นกำเนิดลูกแมวพม่าตัวต่อๆมา








ลักษณะสายพันธุ์








สี : น้ำตาลแดงเป็นสีดั้งเดิม ปัจจุบันมีคนผสมพันธุ์ออกมาเป็น 8 เฉดสี รูปร่างและขนาด : เป็นแมวขนาดกลาง รูปร่างแข็งแรงลำตัวสั้น มีหางยาวปานกลาง หัวเป็นรูปลิ่ม มีกระดูกแก้มสูง จมูกสั้นมีดั่งจมูกชัดเจน ตาด้านบนจะโค้งน้อยกว่าด้านล่าง สีตาเป็นสีเหลืองทอง ใบหูขนาดกลางปลายกลม ขายาวและเรียวเท้าเล็กรูปไข่ ลักษณะนิสัย : ถ้าเทียบกับแมวไทยแล้วแมวพม่าจะไม่ค่อยหนีเที่ยวซุกซนเท่าแมวไทยเรา มันออกจะชอบอยู่กับบ้านและนอนสบายๆมากกว่า








แมวพันธุ์เมียวคูล






















เป็นแมวที่คนนิยมกันมากอีกพันธุ์หนึ่ง ลักษณะช่วงลำตัวสั้นเตี้ย ผิวขนคล้าย เชือกพันกันเป็นเกลียวมองดูคล้ายแมวพันธุ์เปอร์เซีย มีขนขึ้นปกคลุมหนาแน่นแต่ขนไม่ ยาวปลายหางขนหยาบหนาแน่นรกรุงรังแต่ขนไม่ยาวนัก บริเวณรรอบๆลำคอและโคนของ ใบหูมักพันกันเป็นกระจุก ใบหน้าราบแบน ท่าทางสงบเสงี่ยม แก้มอยู่ในตำแหน่งที่สูง มีโครงกระดูกแก้มใหญ่ ใบหูมีรอยแต้ม ลูกนัยน์ตาเป็นรูปไข่ลาดเอียงยาวติดกับบริเวณ ช่องจมูก จมูกเล็ก เป็นแมวที่มีกล้ามเนื้อขาแข็งแรง บางตัวมีขนาดใหญ่ถึง 13 กิโลกรัม








แมวพันธุ์เมนคูน








Maine Coon เป็นแมวที่เกิดจากการผสมข้ามสายพันธุ์ตามธรรมชาติระหว่างแมวบ้านกับแมวป่าอเมริกันลิงซ์ (American Lynz) คำว่า Maine ของเจ้าตัวโตนั้นมาจากแหล่งกำเนิดที่อยู่ในรัฐ Maine ประเทศสหรัฐอเมริกา ส่วนคำว่า Coon นั้น ได้มาจากคำกล่าวของคนพื้นบ้านในสมัยก่อนที่เล่าว่าบรรพบุรุษแมวบ้านของเจ้าเหมียวแอบไปกิ๊กกับตัวแรคคูน จนออกลูกออกหลานมามีหางเป็นพวงสวยงามเหมือนแรคคูนเช่นนี้แลรูปร่างหน้าตาลักษณะเด่นที่เห็นได้ชัดที่สุดของเจ้า Maine Coon ก็คือรูปร่างใหญ่สมส่วน รู้สึกได้ถึงความแข็งแรงและสง่างาม ซึ่งหากเจ้าเหมียวโตเต็มที่แล้วจะมีน้ำหนักมากกว่า 12 กิโลกรัม ส่วนความยาวจากหัวจรดหางจะวัดได้มากกว่า 1 เมตร กล่าวได้ว่าขนาดพอๆกับสุนัขเลยทีเดียว เจ้า Maine Coon จึงจัดเป็นแมวที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในบรรดาแมวสายพันธุ์ทั้งหลาย และผลจากการพัฒนาสายพันธุ์ตามธรรมชาติ ทำให้พวกเค้ามีความแข็งแรง สามารถทนต่อสภาพอากาศที่แปรปรวนของท้องถิ่นได้เป็นอย่างดีลักษณะตามมาตรฐานสายพันธุ์- หัว มีขนาดใหญ่สมส่วน โหนกแก้มสูง รูปหน้ายาวปานกลาง ดูเป็นทรงเหลี่ยม- หู ใบหูตั้งชี้เรียวแหลม มีขนที่ปลายหูเหมือนแมวป่า- ตา ดวงตากลมโต สีเขียว ทอง ทองแดง พบตาสีฟ้าบ้างในเหมียวที่มีขนสีขาว- ขน เป็นแมวประเภทขนกึ่งยาว (Semi Long Hair) มีขนปกคลุมหนาแต่ไม่พันกันยุ่ง ขนส่วนหัว คอ และไหล่จะไม่ยาวมาก จะไล่ความยาวจากส่วนหลัง ส่วนท้อง ไปจนถึงสีข้างและหาง ตัวผู้จะมีขนคอที่หนากว่าตัวเมีย- ขา มีขาที่แข็งแรง ความยาวได้สัดส่วนกับลำตัว อุ้งเท้าใหญ่ เท้าหน้าจะมีข้างละ 5 นิ้ว ส่วนเท้าหลังมีข้างละ 4 นิ้ว








เกร็ดเล็กเกร็ดน้อยของจ้าตัวใหญ่- การให้อาหารตามปกติอาจยังไม่พอ ควรให้อาหารเสริมแก่เจ้าตัวโตด้วยเนื้อสัตว์โปรตีนสูงไขมันต่ำ เพื่อเสริม








สร้างกล้ามเนื้อเจ้าเหมียวให้ล่ำบึ้ก- Maine Coon เป็นแมวที่ไม่ค่อยมีปากเสียงมากนัก คุณสามารถหาเห็บ หมัด เช็ดหู สางขน โดยที่เหมียวไม่ปริปากบ่นรำคาญสักแอะ แถมยังชอบอีกด้วย- แมวกึ่งขนยาวแบบ Maine Coon จะไม่มีปัญหาขนพันกันยุ่งแบบแมวขนยาวอย่างเปอร์เซีย การดูแลจึงทำได้ง่ายขึ้น- มิสซิสนอริส จากภาพยนตร์ แฮรี่ พอตเตอร์ นี่ก็ Maine Coon เหมือนกัน

แมวพันธุ์รัสเซียบูล
































เรียกอีกชื่อหนึ่งว่า แมวรัสเซียสีฟ้า มีถิ่นกำเนิดตามชื่อคือประเทศรัสเซีย แรกเริ่ม เผยแพร่ไปทางประเทศตะวันตกเพราะเป็นของประทานของพระเจ้าชาร์องค์หนึ่งให้แก่นักการ เมืองอังกฤษ จนแพร่หลายต่อมา บางตำนานก็ว่ากลาสีเรือคนหนึ่งได้เอาแมวชนิดนี้ตัวหนึ่งมา แลกกับขาแกะขาหนึ่งกับเจ้าของอู่เรือ เป็นแมวที่น่ารักและสุภาพเรียบร้อย ลำตัวยาวเรียว หู ใหญ่ปลายแหลม ตาสีเขียว ขนสีฟ้าบริสุทธิ์ปราศจากรอยด่าง พร้อยใดๆและขนสั้นราบเรียบ เป็นเงางามอ่อนนุ่ม











แมวพันธุ์แรดดอลล์























ลักษณะเหมือนแมวตุ๊กตาผ้า ขนบริเวณเอวขึ้นหนาแน่นเป็นปุยฟู ที่หางจะมีขนชันยาว บริเวณอุ้งเท้าไปถึงช่วงขาเป็นลักษณะสีขาวเหมือนสวมถุงมือสีขาว เป็นแมวที่ชอบความเงียบ มี เสียงร้องที่เบามาก




แมวพันธุ์วิเชียรมาศ

















เมื่อปี พ.ศ. 2427 พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5 ได้มอบแมววิเชียรมาศคู่หนึ่งให้แก่ กงสุลอังกฤษชื่อนาย โอเวน กูลด์ (OWEN GOULD) แมวไทยคู่นี้ชนะการประกวดแมวที่ กรุงลอนดอน และทำให้ชาวอังกฤษพากันเลี้ยงแมวไทยมากขึ้น จนถึงขั้นตั้งเป็นสโมสรแมวไทยถึง 2 แห่ง



นอกจากประเทศอังกฤษแล้ว พระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 5 ยังทรงมอบแมวไทยให้แก่ประเทศเพื่อนบ้านอีกหลายประเทศ เช่น อเมริกา จนทำให้แมวไทยมีชื่อเสียงไปทั่วโลกในสมัยนั้นแมววิเชียรมาศ เป็นแมวไทยชนิดแรกที่ฝรั่งรู้จัก และตั้งชื่อว่า SIAMESE CAT หรือ SEAL POINT (แมวแต้มสีครั่ง) อันเป็นแมวไทยต้นตระกูลที่ฝรั่งนำไปปรับปรุงสายพันธุ์ จนได้แมววิเชียรมาศลูกผสมต่าง ๆ อีก 8 ชนิดแมววิเชียรมาศ สายพันธุ์แท้ จะมีนัยตาสีฟ้าประกายสดใส ขณะอายุน้อยมีขนสีครีมอ่อน เมื่อโตขึ้น สีขนจะเข้ม เป็นสีน้ำตาล มีแต้มสีน้ำตาลไหม้อยู่ 9 แห่ง คือ ปลายจมูก 1 ปลายหูสองข้าง ปลายเท้าทั้งสี่ ปลายหาง 1, และที่อวัยวะเพศ 1 (ทั้งเพศผู้และเพศเมีย) นับเป็นแต้มสีที่อยู่ในตำแหน่งเหมาะเจาะน่าพิศวง แตกต่างจากแมวพันธุ์อื่นที่มักมีแต้มสีเลอะเทอะไม่เป็นที่ และเป็นลักษณะเด่นที่สามารถถ่ายทอดทางพันธุกรรมได้ ไม่ว่าจะนำไปผสมกับแมวพันธุ์อื่นจะได้แต้มสีตามร่างกาย ตามตำแหน่งเดียวกันเสมอ แต่รูปร่างจะไม่สง่างามเท่าและอุปนิสัยจะไม่ถ่ายทอดไปยังลูกผสมแมววิเชียรมาศเป็นแมวไทยโบราณ ในสมุดข่อยยกย่องว่าเป็นแมวให้ลาภ เลี้ยงกันเฉพาะในราชสำนัก ผู้ใดเลี้ยงไว้จะได้เป็นขุนนาง ปัจจุบัน เรียกแมวพันธุ์นี้ว่า “ แมวเก้าแต้ม” แต่เป็นแมวคนละชนิดกับแมวเก้าแต้มสมัยโบราณ ซึ่งสูญพันธุ์ไปแล้วลักษณะโดยทั่วไปลักษณะที่เป็นข้อเด่นลักษณะสีขน : ขนสั้นแน่นสีขาว หรือสีน้ำตาลอ่อน มีแต้มสีครั่ง หรือสีน้ำตาลไหม้ที่บริเวณใบหน้า หูทั้งสองข้าง เท้าทั้งสี่ หางและที่อวัยวะเพศ (ทั้งแมวเพศผู้และแมวเพศเมีย) รวม 9 แห่ง ขณะที่อายุยังน้อย หรือเป็นลูกแมว สีขนจะออกสีครีมอ่อนๆ หรือขาวนวล พอโตขึ้นสีจะค่อยๆ เข้มขึ้นตามลำดับจนเป็นสีน้ำตาล (สีลูกกวาด) ลักษณะของส่วนหัว : รูปหัวไม่กลม หรือแหลมเกินไป หน้าผากใหญ่และแบน จมูกสั้น หูใหญ่ ตั้งสูงเด่นบนส่วนหัว ลักษณะของนัยน์ตา : ตาสีฟ้า ลักษณะของหาง : หางยาว ปลายแหลมชี้ตรง โคนหางใหญ่และค่อยๆ เล็กเรียวกลมไปจนสุดปลายหาง ขายาวเรียวได้สัดส่วนกับลำตัว ลักษณะที่เป็นข้อด้อยขนยาวเกินไป มีแต้มสีไม่ครบทั้ง 9 แห่ง แต้มสีอื่นที่ไม่ใช่สีน้ำตาลไหม้ นัยน์ตาสองข้างเป็นคนละสี หรือเป็นสีอื่นๆ ตาเอียง จมูกหัก หูไม่ตั้ง หางสั้นเกินไป (เมื่อยืนขาหลังให้ขนานกับหาง ความยาวของหางสั้นกว่าขาเกิน 3 นิ้ว ) หางขอด หางหงิกงอ หางสดุด ปลายหางคด ดุเกินไป เลี้ยงลูกไม่ดี





แมวศุภลักษณ์ (ทองแดง) เป็นแมวสีน้ำตาลไหม้ ทั้งสีสันและลักษณะเหมือนแมวสีน้ำตาลของประเทศพม่าทุกประการ จึงยังหาข้อสรุปไม่ได้ว่ามีถิ่นกำเนิดในประเทศไทย หรือประเทศพม่า แต่มีผู้สันนิฐานว่าพม่านำแมวชนิดนี้ไปจากประเทศไทย สมัยกรุงศรีอยุธยาแตก เมื่อ พ.ศ. 2310 ทำให้แมวศุภลักษณ์ไปแพร่พันธุ์ในพม่าในปี พ.ศ. 2473 ดร. โจเซฟ ซี่ ทอมสัน ชาวอเมริกา ได้นำลูกแมวสีน้ำตาล จากประเทศพม่ากลับไปยังนครซานฟรานซิสโก และนำไปจดทะเบียนที่ประเทศอังกฤษ โดยตั้งชื่อว่า BURMESE CATแมวศุภลักษณ์ เป็นแมวขนาดปานกลาง ขนสีน้ำตาลไหม้คล้ายสีทองแดง มีสีเข้มที่ส่วนต่าง ๆ 9 ตำแหน่ง คือ ใบหู 2 ข้าง, ปลายเท้าทั้ง 4 ข้าง, หางเข้มตลอดต้นจรดปลาย 1, จมูกและหน้าผาก 1, อวัยวะเพศ 1, ศีรษะค่อนข้างกลม และกว้าง หนวด และขนในใบหูต้องมีสีน้ำตาลเข้มเช่นเดียวกับสีของลำตัว หางยาวปานกลางมีลักษณะเรียว และเหยียดตรง ขายาวเรียว มีอุ้งเท้าอวบค่อนข้างกลม ดวงตาสีเหลืองดอกบวบเป็นประกาย มองดูดุร้าย เป็นแมวที่มีความกระตือรือร้นอยู่เสมอ ชอบผจญภัย สนใจสิ่งต่าง ๆ รอบตัว รักอิสระเหนือสิ่งใดแมวศุภลักษณ์ เป็นแมวที่มีสีสันและสัดส่วนที่สวยงามมาก ปัจจุบันในเมืองไทยหายากมาก แต่มีทั่วไปในอเมริกาและอังกฤษ เป็นแมวพันธุ์หนึ่งที่คนนิยมเลี้ยงกันมากแมวศุภลักษณ์ จะต้องมีลักษณะดังต่อไปนี้ สีขน ลักษณะสีขนจะเป็นสีน้ำตาลเข้มจัด จนออกสีน้ำตาลไหม้ คล้ายกับสีทองแดงลำตัว ลำตัวควรจะมีขนาดปานกลาง มีโครงสร้างที่แข็งแรง มีหลังโค้ง ขามีขนาดที่ เหมาะสมกับลำตัวศีรษะ มีศีรษะที่ค่อนข้างกลมและกว้างดวงตา แมวชนิดนี้จะมีดวงตาออกเป็นลักษณะเหลืองๆ หรือออกสีอำพันหนวด หนวดของแมวศุภลักษณ์จะมีสีแวววาวเหมือนกับลวดทองแดงเลยทีเดีนวหาง มีหางยาวปานกลาง ลักษณะหางจะยาวและเหยียดตรงขา ขาจะยาวเรียว และมีอุ้งเท้าอวบลักษณะค่อนข้างกลม